วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สติปัฏฐานเป็นชัยภูมิฝึกฝน ...หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

สติปัฏฐานเป็นชัยภูมิฝึกฝน
(จากหนังสือ "มุตโตทัย" หลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต)

พระบรมศาสดาเจ้าทรงตั้ง "มหาสติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ เข้าสู่มรรคผลนิพพาน"  อุปมาในทางโลก การรบทัพชิงชัยมุ่งหมายเอาชัยชนะ จำต้องหาชัยภูมิ ถ้าได้ชัยภูมิดี  ย่อมสามารถป้องกันอาวุธของข้าศึกได้ดี  ณ ที่นั้นสามารถรวบรวมกำลังใหญ่ฆ่าฟันข้าศึกให้พ่ายแพ้ไปได้ 

อุปมัยทางธรรมก็ฉันนั้น ที่เอามหาสติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ โดย "ผู้ที่จะเข้าสู่สงครามรบข้าศึก คือกิเลส ต้องพิจารณากายานุปัสสนาสติปัฏฐาน" เป็นต้นก่อน เพราะคนเราที่เกิดกามราคะ เป็นต้นขึ้น ก็เกิดที่กาย  พอตาแลไปเห็นกายก็ทำใจให้กำเริบ กายจึงเป็นเครื่องก่อเหตุ  ต้องพิจารณากายก่อน จะได้ดับนิวรณ์ทำใจให้สงบได้ ณ ที่นี้พึงทำให้มาก เจริญให้มาก คือพิจารณาไม่ถอยเลยทีเดียว เมื่ออุคคหนิมิตปรากฏ จะปรากฏส่วนไหนก็ตาม  ให้ถือเอากายส่วนนั้นพิจารณาเป็นหลักไว้  ไม่ต้องย้ายไปพิจารณาที่อื่น  ที่อื่นยังไม่เห็นก็ต้องพิจารณาที่อื่นสิ ! เช่นนี้หาควรไม่

ถึงแม้จะพิจารณากายเป็นส่วนๆ ทุกๆ อาการอันเป็นธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ได้อย่างละเอียด ที่เรียกว่า ปฏิภาคก็ตาม  ก็ต้องพิจารณากาย ที่เห็นทีแรกด้วยอุคคหนิมิตนั้นจนชำนาญ  ที่จะชำนาญได้ต้องพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก ณ ที่เดียวนั้นเอง เหมือนการสวดมนต์ฉะนั้น เมื่อเราท่องสูตรนี้ได้แล้วทิ้งเสีย ไม่เล่า ไม่สวดไว้อีก ก็จะลืมเสีย ไม่สำเร็จประโยชน์ ฉันใด  การพิจารณากายก็ฉันนั้นเหมือนกัน เมื่อได้อุคคหนิมิตแล้ว ไม่พิจารณาให้มาก ปล่อยทิ้งเสียด้วยความประมาท  ก็ไม่สำเร็จประโยชน์อะไรอย่างเดียวกัน


อัตภาพร่างกายอันประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ลม ไฟนี้ ให้พิจารณาไตร่ตรองให้แยบคาย กระทำให้แจ้ง แทงให้ตลอดเป็นของสำคัญมาก ผู้ที่จะพ้นทุกข์ได้ทั้งหมด  ล้วนแต่ต้องพิจารณากายทั้งสิ้น  แม้พระพุทธเจ้าจะได้ตรัสรู้ทีแรก ก็ทรงพิจารณาลม  ลมจะไม่ใช่กายอย่างไร  เพราะฉะนั้นมหาสติปัฏฐาน มีกายานุปัสสนาเป็นต้น ชื่อว่า เป็นชัยภูมิที่ดี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น