วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

พระรัตนตรัย โดยพระญาณติโลกะ



                                          

พระรัตนตรัย
พระญาณติโลกะ พระมหาเถระ ชาวเยอรมัน
รจนาขึ้น เมื่อปี ๒๔๕๐ ณ นครย่างกุ้ง
 
๑. พระพุทธ 
 พระพุทธเจ้าไม่ใช่เทพเจ้าหรือศาสดาพยากรณ์ หรือเทวดาอวตาร หากแต่เป็นมนุษย์อัศจรรย์ เป็นมหาบุรุษผู้บรรลุวิมุตติ และปัญญาอันเลิศ ด้วยความเพียรพยายามของพระองค์เอง และทรงเป็นบรมครูผู้เชี่ยวชาญในการฝึกอบรมทั้งเทพและมนุษย์อย่างที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของสัตว์โลก ด้วยการชี้ทางให้มนุษย์ช่วยตนเอง โดยดำเนินตามทางที่พระองค์ทรงผ่านมาแล้ว และด้วยเหตุแห่งพระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ พระพุทธเจ้าย่อมทรงเป็นแบบอย่างแห่งรัตนบุรุษผู้สมบูรณ์ ด้วยคุณธรรมตลอดทุกกาลสมัย
๒. พระธรรม
พระธรรมไม่ใช่หลักธรรมแห่งการดลบันดาล หากแต่เป็นหลักคำสอนความจริงของผู้ที่ได้ประสบแสงสว่างแห่งสัจธรรมนั้นแล้วด้วยตนเอง พระธรรมคือหลักคำสอนอริยสัจ ๔ เกี่ยวกับความจริงมูลฐานของชีวิตและความหลุดพ้น ซึ่งอาจบรรลุได้ด้วยความเพียรพยายามของมนุษย์ ในการขัดเกลาอบรมบ่มนิสัยของตนจนสมบูรณ์ด้วยความบริสุทธิ์และปัญญา พระธรรมเป็นทั้งระบบธรรมจริยา การวิเคราะห์แก่นแท้ของชีวิต ปรัชญาอันล้ำลึก และวิธีการฝึกอบรมจิต พูดสั้นๆ พระธรรม คือการชี้ช่องทางอันละเอียดและสมบูรณ์ที่สุด ที่นำไปสู่ความหลุดพ้น พระธรรมเป็นทั้งเรื่องของความรู้สึกและเหตุผล สอนให้เดินทางสายกลางซึ่งนำไปสู่ความหลุดพ้น ให้หลีกเลี่ยงทางอันเป็นที่สุด ทั้งในเรื่องความคิดและความประพฤติที่เปล่าประโยชน์ และเป็นอันตราย ด้วยเหตุนี้พระธรรมจึงเป็นของไม่ล่วงกาลเวลา และเป็นของสากลสำหรับผู้มีจิตใจเข้มแข็ง และมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
๓. พระสงฆ์ 
ตามศัพท์แปลว่า ชุมนุม หรือชมรม หมายถึง คณะพระภิกษุ หรือผู้ภิกขาจาร พะพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงบัญญัติขึ้น ในปัจจุบันนี้คณะสงฆ์แบบสมัยพุทธกาลยังคงมีอยู่ในประเทศพม่า ไทย กัมพูชา ศรีลังกา และบังคลาเทศ คณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนาและนักบวชในลัทธิเชนนับได้ว่า เป็นชมรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ชีวิตสงฆ์หรือบรรพชิตย่อมอำนวยโอกาส และภาวะแวดล้อมที่ห่างจากการรบกวนทางโลก เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรม เพื่อมุ่งหวังต่อวิมุตติ ความหลุดพ้น ดังนั้น คณะสงฆ์จึงมีอยู่เสมอ และเป็นของสากล ตราบใดที่พระศาสนายังเจริญรุ่งเรืองอยู่