พระรัตนตรัย
พระญาณติโลกะ
พระมหาเถระ ชาวเยอรมัน
รจนาขึ้น
เมื่อปี ๒๔๕๐ ณ นครย่างกุ้ง
๑. พระพุทธ
พระพุทธเจ้าไม่ใช่เทพเจ้าหรือศาสดาพยากรณ์
หรือเทวดาอวตาร หากแต่เป็นมนุษย์อัศจรรย์ เป็นมหาบุรุษผู้บรรลุวิมุตติ
และปัญญาอันเลิศ ด้วยความเพียรพยายามของพระองค์เอง
และทรงเป็นบรมครูผู้เชี่ยวชาญในการฝึกอบรมทั้งเทพและมนุษย์อย่างที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้
พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของสัตว์โลก ด้วยการชี้ทางให้มนุษย์ช่วยตนเอง โดยดำเนินตามทางที่พระองค์ทรงผ่านมาแล้ว
และด้วยเหตุแห่งพระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
พระพุทธเจ้าย่อมทรงเป็นแบบอย่างแห่งรัตนบุรุษผู้สมบูรณ์ ด้วยคุณธรรมตลอดทุกกาลสมัย
๒. พระธรรม
พระธรรมไม่ใช่หลักธรรมแห่งการดลบันดาล
หากแต่เป็นหลักคำสอนความจริงของผู้ที่ได้ประสบแสงสว่างแห่งสัจธรรมนั้นแล้วด้วยตนเอง
พระธรรมคือหลักคำสอนอริยสัจ ๔ เกี่ยวกับความจริงมูลฐานของชีวิตและความหลุดพ้น
ซึ่งอาจบรรลุได้ด้วยความเพียรพยายามของมนุษย์
ในการขัดเกลาอบรมบ่มนิสัยของตนจนสมบูรณ์ด้วยความบริสุทธิ์และปัญญา
พระธรรมเป็นทั้งระบบธรรมจริยา การวิเคราะห์แก่นแท้ของชีวิต ปรัชญาอันล้ำลึก
และวิธีการฝึกอบรมจิต พูดสั้นๆ พระธรรม
คือการชี้ช่องทางอันละเอียดและสมบูรณ์ที่สุด ที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
พระธรรมเป็นทั้งเรื่องของความรู้สึกและเหตุผล
สอนให้เดินทางสายกลางซึ่งนำไปสู่ความหลุดพ้น ให้หลีกเลี่ยงทางอันเป็นที่สุด
ทั้งในเรื่องความคิดและความประพฤติที่เปล่าประโยชน์ และเป็นอันตราย
ด้วยเหตุนี้พระธรรมจึงเป็นของไม่ล่วงกาลเวลา
และเป็นของสากลสำหรับผู้มีจิตใจเข้มแข็ง และมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
๓. พระสงฆ์
ตามศัพท์แปลว่า ชุมนุม หรือชมรม หมายถึง
คณะพระภิกษุ หรือผู้ภิกขาจาร พะพุทธเจ้าเป็นผู้ทรงบัญญัติขึ้น
ในปัจจุบันนี้คณะสงฆ์แบบสมัยพุทธกาลยังคงมีอยู่ในประเทศพม่า ไทย กัมพูชา ศรีลังกา
และบังคลาเทศ คณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนาและนักบวชในลัทธิเชนนับได้ว่า
เป็นชมรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ชีวิตสงฆ์หรือบรรพชิตย่อมอำนวยโอกาส
และภาวะแวดล้อมที่ห่างจากการรบกวนทางโลก เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรม
เพื่อมุ่งหวังต่อวิมุตติ ความหลุดพ้น ดังนั้น คณะสงฆ์จึงมีอยู่เสมอ และเป็นของสากล
ตราบใดที่พระศาสนายังเจริญรุ่งเรืองอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น