จงเว้นขาดจากคติทวินิยม
( จาก “คำสอนฮวงโป” พุทธทาสภิกขุ )
เนื่องจากจิตเป็นพุทธะ
วิธีที่ฉลาดเพื่อลุถึงสิ่งๆ นี้ คือ การเพาะให้พุทธะจิต นั้น
ผลิออกมาให้เห็นเท่านั้นเอง เพียงแต่ทำให้มัน “ว่างจากความคิดปรุงแต่งๆ
ซึ่งล้วนแต่นำไปสู่การเกิด และการดับอยู่ตลอดเวลา และนำไปสู่ความทุกข์
ความเดือดร้อนใจของสัตว์โลก และโลกอื่นๆ ให้สิ้นเชิง” เท่านั้น เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีวิธีการปฏิบัติเพื่อการตรัสรู้
และอะไรทำนองนั้น นานาชนิดเลย
ถ้าเรายังถือว่ามีพุทธะอยู่
เราก็จะถูกปิดกั้นเสียจากพุทธะนั้น นั่นเอง และเมื่อเรายังถือว่ามีสัตว์โลกทั้งหลายอยู่ เราก็จะถูกปิดกั้นเสียจากสัตว์โลกทั้งหลายเหล่านั้น นั่นเอง ความคิดปรุงแต่งที่เป็นคติทวินิยม
เช่น เห็นว่ามี “สัตว์โลกที่ยังโง่หลง”
หรือ "สัตว์ที่ตรัสรู้แล้ว" มี “บริสุทธิ์” หรือ “ไม่บริสุทธิ์” ดังนั้นเป็นต้นก็ตาม นั่นแหละ ! คือสิ่งกีดกั้นปิดบังไม่ให้เห็นแจ้ง
มันเป็นเพราะจิตของเรา
ถูกปิดกั้นเสียด้วยสิ่งเหล่านี้นั่นเอง ธรรมจักรจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหมุนไปๆ มันเหมือนกับลิงที่ขว้างอะไรลงไปแล้ว
หยิบมันขึ้นมาอีก ขว้างอะไรลงไปแล้ว หยิบมันขึ้นมาอีก ดังนี้เรื่อยไป ไม่หยุดนี้
ฉันใด การศึกษาของเราก็ฉันนั้น
ทั้งหมดเท่าที่เราปรารถนานั้น
มันเพียงแต่หยุดการศึกษาของเราเสีย เลิกล้างความคิดที่ว่า
โง่หรือฉลาด บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ ใหญ่หรือเล็ก
เป็นต้น เสียให้สิ้นเชิง ตัดความยึดมั่นถือมั่น และหยุดการกระทำเสียเด็ดขาดเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
เป็นเพียงสิ่งที่เพิ่มความลำบากให้มากขึ้น
แต่เพื่ออำนวยความสะดวกให้นิดหน่อยเท่านั้น หรือเป็นเพียงเครื่องประดับประดา(ที่ไม่จำเป็น)ภายในจิตหนึ่งนั้น
เท่านั้น
เราควรสลัดเสียให้ได้ทุกสิ่งที่เคยเรียนไว้
สลัดความรู้สึกสำคัญมั่นหมายต่างๆ เสียให้หมด
จนไม่มีอะไรเหลืออยู่ในสภาพที่เป็นตัวตนให้ยึดถืออีกต่อไป
และเฉพาะต่อเมื่อปรากฏการณ์ต่างๆ ที่แวดล้อมเรา
ไม่สามารถสกัดกั้นปิดบังเราได้อีกเลย และเฉพาะต่อเมื่อเราพรากตัวเองออกมาเสีย
จากความคิดคติทวินิยมได้ตลอดแนว ไม่มีเหลือให้รู้สึกว่า มีคนที่โง่
และคนที่ตรัสรู้แล้ว อีกต่อไปจริง ๆ เท่านั้น เราก็จะนำตนขึ้นสู่สมญานามว่า "พุทธะผู้อยู่เหนือโลก"
ได้ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น