การอยู่เหนือโลก
(จาก “คำสอนฮวงโป” พุทธทาสภิกขุ)
มูลธาตุทั้ง ๕ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย)
ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นวิญญาณนั้น เป็นของว่าง และมูลธาตุทั้ง ๕ ของรูปกายนั้น
ไม่ใช่เป็นสิ่งซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นตัวของเรา จิตจริงแท้นั้น ไม่มีรูปร่าง และไม่มีอาการมาหรืออาการไป
"ธรรมชาติเดิมแท้ของเรา" นั้นเป็นสิ่งๆ หนึ่ง ซึ่งไม่มีการตั้งต้นที่การเกิด
และไม่มีการสิ้นสุดลงที่การตาย แต่เป็นของสิ่งเดียวกันรวด
และปราศจากการเคลื่อนไหวใดๆ ในส่วนลึกจริงๆ ของมันทั้งหมด
จิตของเรากับสิ่งต่างๆ ซึ่งแวดล้อมเราอยู่นั้น
เป็นสิ่งสิ่งเดียวกัน ถ้าเราทำความเข้าใจได้ตามนี้จริงๆ เราจะได้ลุถึงความรู้แจ้งเห็นแจ้งได้ โดยแวบเดียว
ในขณะนั้น และเราเป็นผู้ที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องในโลกทั้งสามอีกต่อไป
เราจะเป็นผู้อยู่เหนือโลก
เราไม่มีการโน้มเอียงไปสู่การเกิดใหม่อีกแม้แต่นิดเดียว “เราจะเป็นแต่ตัวเราเองเท่านั้น
ปราศจากความคิดปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง และเป็นสิ่งเดียวกับสิ่งสูงสุดสิ่งนั้น” เราจะได้ลุถึงภาวะแห่งความที่
ไม่มีอะไรปรุงแต่งได้อีกต่อไป นี้แหละคือหลักธรรมที่เป็นหลักมูลฐานอยู่ในที่นี้
โลกมีต้นไม้ มีใบหญ่า มีพื้นดินใด้อยู่อาศัย มีดวงจันทร์ เป็นเพื่อน มีกาลเวลา และอวกาศ แต่วันหนึ่ง เรามองเห็นว่าสิ่งหราวนี้ไม่เป็นความจริง รวมทั้งร้างกายเราด้วย ฟิสิกอาจว่าอตอมมีอยู่ในเรา แต่เมื่อมองดูแล้ว คิดว่าทุกอย๋างเป็นมายาล้วนไม่มีตัวตนเลย รวมทั้งเราอาวกาศและกาลเวลา ต้นไม้คุณต่อยมันด้วยมือ คุณเจ็บ แต่มันไม่มีอยู่จริง ตอนคุณไม่ใด้ต่อย
ตอบลบ