วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ธรรมะหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ...จากหนังสือมุตโตทัย



  ธรรมะหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
(สรุปจากหนังสือ มุตโตทัย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

ผู้ใดสำรอกอวิชชาได้ ย่อมเข้าสู่แดนอันเกษม มีปรินิพพานเป็นที่สุด
ลูกของอวิชชา คือ สังขาร (การคิดปรุงแต่ง เป็นอาการของจิต)
หลานของอวิชชา คือ นิวรณ์ ๕ (กิเลส - ตัวปิดกั้นจิต มิให้บรรลุถึงความดี)
เหลนของอวิชชา คือ อโยนิโสมนสิการ (การไม่น้อมจิตคิดพิจารณาธรรม โดยแยบคาย)
โหลนของอวิชชา คือ วัฏกิเลส วัฏกรรม วัฏสังสาร

มนุษย์มีบิดามารดาเป็นแดนเกิด

นโม แยกเป็น ๒ ธาตุ คือ
    ๑. น - ธาตุน้ำ (แม่)   ๒.โม ธาตุดิน (พ่อ)
ฐีติภูตํ คือ จิตเดิมแท้ เป็นแดนเกิดของ "อวิชชา" เพราะมีความหลง ซึ่งเป็นตัวดั้งเดิมของสังสารวัฏฏ์ จิตหายหลงเมื่อใด ก็จะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดเมื่อนั้น
(อวิชชา คือ ความไม่รู้แจ้งในหลักธรรมอริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ การดับทุกข์ และข้อปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์
วิชชา คือ ความรู้แจ้งในหลักธรรมอริยสัจ ๔ ทุกข์ได้กำหนดรู้แล้ว เหตุแห่งทุกข์ได้กำหนดละแล้ว การดับทุกข์ได้ทำให้แจ้งแล้ว และข้อปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์ได้เจริญแล้ว)

วิชชา และอวิชชา จึงเกิดที่ฐีติภูตํ เช่นเดียวกัน
ฐีติภูตํ คือ จิตเดิมแท้นั้น ไม่มีอาการของผู้หลุดพ้น
ฐีติภูตํ เป็นธรรมชาติใสสว่าง แต่มืดมัวเพราะอุปกิเลส (เป็นของปลอม) ซึ่งจรมาทางทวารทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ผู้ปฏิบัติต้องทำลายของปลอมให้หมดสิ้นไป ของปลอมก็ไม่สามารถเข้าถึงฐีติภูตํได้ แม้จะเกี่ยวข้องกับอารมณ์ทางโลกอยู่ ก็ดุจน้ำกลิ้งบนใบบัว

( อุปกิเลส ๑๖ ได้แก่ โลภ พยาบาท โกรธ ผูกโกรธ ลบหลู่บุญคุณท่าน ตีเสมอ ริษยา ตระหนี่ มารยา โอ้อวด กระด้าง แข่งดี ถือตัว ดูหมิ่น มัวเมา และประมาท) 

3 ความคิดเห็น:

  1. เป็นการสรุปย่อธรรมอันวิเศษได้อย่างยอดเยี่ยมเลยค่ะ

    ตอบลบ
  2. โมทนาสาธุค่ะ ถ้าคุณปฏิบัติธรรมมานานและได้ปฏิบัติมาทุกรูปแบบ แต่ยังตัดกิเลสไม่ขาด หรือหาทางจบไม่ได้ ขอแนะนำให้อ่าน "สุดยอดของแนวการปฏิบัติธรรมให้พ้นทุกข์ พิสูจน์ได้ในภพนี้ชาตินี้" ของพระอาจารย์จรัญ ทักขญาโณ วัดหลวงขุนวิน(สาขาวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี) อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ในธรรมจากพระอริยสงฆ์ "http://tamma-anatta.blogspot.com" ได้ลงเสนอเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๖ คิดว่าจะเป็นประโยชน์มาก และหาทางออกได้ โมทนาสาธุค่ะ ขอให้คุณเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

    ตอบลบ