ขันธ์  5
(จาก
ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์)
       สภาวะของขันธ์ ๕ (รูป
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) เมื่อมนสิการโดยอนัตตา เห็นอนัตตา  นิมิตปรากฏเป็นภัยอันพิลึกทั้งรูปธรรม  และนามธรรมโดยเปล่า  โดยสูญ 
๑.
เปรียบประดุจบ้านร้าง 
อันว่างเปล่าหาคนอยู่ไม่ได้
๒.
เปรียบประดุจพยับแดด ปรากฏเป็นแสงระยับ ๆ แล้วแลเคลื่อนหายไป บัดเดี๋ยวใจ ไม่ยั่งยืน
        สังขารธรรม 
ที่พาสัตว์ท่องเที่ยวไปในภพต่าง ๆ  ก็เป็นภัยอันพิลึกแก่พระโยคาพจร  ที่พิจารณาพระอนัตตา  และกระทำมนสิการโดยอนัตตา
       เมื่อพิจารณาเห็นภัยของสังขารธรรมอยู่เนืองๆ
ทำให้มาก ๆ  ในขันธสันดานแล้ว ย่อมสิ้นรัก
สิ้นใคร่ สิ้นความปรารถนา อาลัย ในสังขารธรรมทั้งหลาย ทั้งปวง  ภพทั้ง ๓ ก็ปรากฏเป็นประดุจ  ขุมถ่านเพลิงอันเป็นเปลวรุ่งโรจน์
       ๑. มหาภูตรูป ทั้ง ๔  คือ ปฐวีธาตุ(ธาตุดิน) อาโปธาตุ(ธาตุน้ำ)  เตโชธาตุ(ธาตุไฟ) วาโยธาตุ(ธาตุลม)นั้น ก็ปรากฏประดุจอสรพิษทั้ง ๔ ตัว  ล้วนมีพิษอันพิลึก
       ๒. ปัญจขันธ์ทั้ง ๕ คือ  รูปขันธ์  เวทนาขันธ์ 
สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์  วิญญาณขันธ์นั้น ปรากฏประดุจนายเพชฌฆาตทั้ง ๔ ถือดาบเงือดเงื้อไว้  คอยอยู่ที่จะฟาดฟันให้บรรลัย
       ๓. อายตนะภายในทั้ง ๖  คือ จักขาวายตนะ(ตา)  โสตายตนะ(หู) 
ฆานายตนะ(จมูก) ชิวหายาตนะ(ลิ้น)  กายายตนะ(กาย) มนายตนะ(ใจ)นั้น  ปรากฏประดุจบ้านร้าง  บ้านเซ 
บ้านเปล่าสูญสิ้นทั้ง ๖ บ้าน
       ๔. อายตนะภายนอกทั้ง ๖ คือ
รูปายตนะ(รูป)  สัททายตนะ (เสียง) คันธายตนะ(กลิ่น)
รสายตนะ(รส) โผฏฐัพพายตนะ(สัมผัส) 
ธัมมายตนะ(ธรรมารมณ์)นั้น  ก็ปรากฏประดุจโจร
 ๖ คน 
อันมีฝีมือกล้าหยาบช้าทารุณ 
เข้าบ้านไหนก็จะฆ่าชาวบ้านนั้น  ให้ถึงซึ่งความพินาศฉิบหาย
วิญญาณฐิติ
๗ (ภูมิที่ตั้งของวิญญาณ ๗ ภูมิ ) และสัตตาวาส ๙ (ภพที่อยู่ของสัตว์ ๙
ภพ)นั้น ปรากฏประดุจเพลิง  ๑๖ กอง
ไหม้เป็นเปลวโดยรอบ 
กอปรด้วยรัศมีเพลิงรุ่งโรจน์โชตนาการ
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น