วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

รู้แจ้งโลก...หลวงพ่อชา สุภัทโท


รู้แจ้งโลก
(หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี)


      จะปฏิบัติธรรมอย่างไร คนเราไม่รู้จัก นึกว่าเดินจงกรมฟังธรรม นั่งสมาธิ เป็นการปฏิบัติ นั่นเป็นส่วนน้อยก็จริงอยู่ แต่มันเป็นเปลือกของมัน  
       การปฏิบัติจริงๆ นั้นปฏิบัติเมื่อประสบกับอารมณ์ เช่น มีคนพูดไม่ถูกใจเรา ก็เป็นทุกข์ขึ้นมา ถ้ามีคนพูดถูกใจก็เป็นสุข ตรงนี้แหละที่จะต้องปฏิบัติ  จะปฏิบัติอย่างไร อันนี้สำคัญ  ถ้าเราไปวิ่งกับสุข  ไปวิ่งกับทุกข์  วิ่งตลอดไปจนถึงวันตายก็ไม่พบธรรมะ
        คนโดยมากได้ของไม่ชอบใจ ไม่อยากพิจารณา อย่างคนนินทาว่าเราไม่ดี นี่ควรฟัง เขาว่าถูกหรือว่าผิดอะไรหนอ ! ไม่ดีตรงไหน ควรรับฟัง ไม่ต้องปิดตนเอง ตรงนั้นแหละต้องปฏิบัติ บางทีเขาว่าถูกยังไปโทษเขาอีก ตรงไหนไม่ดีเราก็แก้ไขเขี่ยสิ่งที่ไม่ดีออกเสีย มันก็ดีขึ้น นี่คือคนมีปัญญา
 สิ่งที่วุ่นวาย  สิ่งที่ไม่สงบมันอยู่ตรงนั้นแหละ ! มันเป็นเหตุ  สิ่งที่สงบก็อยู่ตรงนั้นเอง  เราเอามันแทนที่เข้าไป ที่มันไม่สงบนั่นไง การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นเรื่องสำคัญของชีวิตเสมอกับลมหายใจ ให้ดูที่ความรู้สึกของเรา นี่มันเกิดมาจากเหตุใด ตาเห็นรูป หูได้ฟังเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส  กายถูกต้องสัมผัสอะไร มันก็มารวมกันที่ผู้รู้ คือจิตนี้มีความรู้ขึ้น จิตเป็นผู้ที่รับรู้อารมณ์  ถ้ามันไม่ชอบใจ มันก็ไม่เอา มันเป็นทุกข์ ถ้ามันชอบใจมันก็เอาเป็นสุข เรื่องก็เท่านี้แหละ 
จะหาคนในโลกนี้มาพูดให้ถูกใจเราตลอดชีวิตจะได้ไหม ไม่ได้  ไม่ได้แล้วจะไปอยู่ที่ไหน  โลกนี้มันเป็นอย่างนี้  พระพุทธเจ้าท่านรู้แจ้งโลก ท่านพิจารณาจนเบื่อ และเห็นโทษของมัน  ถ้าเราเข้าไปเห็นโทษของสิ่งเหล่านั้นแน่นอนแล้ว  เราก็วางมันได้เท่านั้นเอง
สมัยนี้ วุ่นวายกว่าแต่ก่อน เป็นทุกข์กว่าแต่ก่อน นักบวชเขาเรียนหนังสือกันเพื่ออาชีพ ไม่ได้เรียนเพื่อปฏิบัติธรรม  เพราะไม่รู้คุณค่าของธรรมะ ธรรมะตามตัวหนังสือ ตามตำรานั้นมันอยู่ข้างนอก มันไม่เห็นธรรมะที่อยู่ในจิตของตน  เมื่อเราดูจิตของตน ก็จะเห็น ก็เอามาสอนจิตของตน  เห็นความจริงอยู่อย่างนั้น ถ้าเอาความจริงมาพูดขึ้นมา มันก็เป็นความจริง มันก็จะตัดกระแสความไม่จริงออกทั้งหมดเลย
ความจริงอันนี้ใครสร้างขึ้นมา ก็ความจริงมันสร้างขึ้นมา  ไม่ใช่พระพุทธเจ้าสร้างหรือ ไม่ใช่ ท่านไปค้นพบว่าอันนี้เป็นอย่างนี้ แล้วท่านก็เอามาสอนเป็นธรรมะเป็นอมตะนิยาม มิใช่ท่านแต่งขึ้นมา ธรรมะนี้ก็เป็นของเก่า ถึงแม้พระพุทธเจ้าไม่เกิดก็มีอยู่ ถึงเกิดมาก็มีอยู่ แม้คนไม่ปฏิบัติก็มีอยู่  ถึงจะมีคนปฏิบัติก็มีอยู่ 
การทำกรรมดี กรรมชั่วของเรานั้น ถ้าเราไม่หยุด มันก็ไม่หยุด ถ้าเราหยุดมันก็หยุด นี่แหละคือการปฏิบัติธรรม

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น