ภาวนา
(หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี)
เรื่อง "การภาวนา" อารมณ์ที่เรียกว่าภาวนาเขาเอาพุทโธ ธัมโม สังโฆ มาภาวนาเป็นกรรมฐานกัน แต่เราเอาสั้นกว่านั้น เมื่อรู้สึกว่าใจหงุดหงิด ใจไม่ดี โกรธ เราก็ร้อง ฮึ ! เวลาดีใจขึ้นมา
ก็ร้อง ฮึ ! มันไม่เที่ยงดอก ถ้ารักคนนั้นขึ้นมา ก็ร้อง ฮึ ! ถ้าโกรธคนนั้นคนมา ก็ร้อง ฮึ !
มันไม่เที่ยงดอก
ไม่ต้องไปดูลึกถึงพระไตรปิฎกหรอก
ไอ้
ฮึ ! นี้ คือ มันไม่เที่ยง ความรักนี้มันไม่เที่ยง ความชังมันก็ไม่เที่ยง ความดีมันก็ไม่เที่ยง ความชั่วก็มันไม่เที่ยง
มันเที่ยงอย่างไรเล่า ! มันจะเที่ยงตรงไหม
? มันเที่ยงก็ตรงที่ของเหล่านั้นมันเป็นของมันอยู่อย่างนั้น คือมันเที่ยงของมันอย่างนั้น มันไม่แปรเป็นอย่างอื่น เดี๋ยวมันก็รัก เดี๋ยวก็มันชัง มันเป็นของมันอยู่อย่างนี้ นี่คือมันเที่ยงอย่างนี้
ฉะนั้น จึงบอกว่าเมื่อความรักมันเกิดขึ้น ก็ร้องว่า ฮึ ! มันไม่เปลืองเวลาดี ไม่ต้องว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล้ว ถ้าขี้เกียจภาวนากันมาก เอาง่ายๆ ดีกว่า มันจะโกรธ ก็ร้องว่า
ฮึ ! มันจะหลงก็ร้องว่า
ฮึ ! เท่านี้แหละ อะไรๆ มันก็ไม่เที่ยงทั้งนั้น
มันเที่ยงก็เพราะมันเป็นของมันอยู่อย่างนั้น เห็นเท่านี้ก็เห็น "แก่นของธรรมะ คือสัจธรรม"
อันนี้
ถ้าเรามา ฮึ ! กันบ่อยๆ ค่อยๆ ทยอยไป อุปาทานก็จะน้อยไป น้อยไปอย่างนี้แหละ ความรักนี้ฉันก็ไม่ติดใจ ความชั่วฉันก็ไม่ติดใจ อะไรๆ ฉันก็ไม่ติดใจทั้งนั้น อย่างนี้จึงเรียกว่า ไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น เชื่อสัจธรรมอย่างเดียว รู้ธรรมะแค่นี้ก็พอแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น