พุทธธรรม
(พุทธทาสภิกขุ)
สิ่งๆ นี้
เป็นสัจธรรมอันเดียว ที่สูงยิ่งกว่าสัจธรรมทั้งหลาย.
ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่พบสัจธรรมนี้ ความปลอดภัยที่แท้จริงของชีวิต ยังมีไม่ได้ สาเหตุที่คนส่วนมากไม่สนใจในเรื่องนี้ เป็นเพราะไปเข้าใจเสียว่า
เรื่องพุทธธรรมไม่เกี่ยวกับคนเรา หรือเห็นไปเสียว่า
ไม่จำเป็นต้องรู้ก็อาจหาความสุขได้ บางคนเห็นว่า
ถ้าสนใจกับเรื่องนี้แล้ว จะต้องทำตัวเป็นฤาษีชีไพร ต้องทำตัวให้เหินห่างจากความสนุกเพลิดเพลินในโลกทุกอย่าง
และบางคนถึงกับเห็นไปว่า เรื่องพุทธธรรมนั้นวิเศษจริง แต่ก็ยากที่คนอย่างเราจะเข้าใจได้
อันที่จริง ความเข้าใจเช่นนั้น เป็นการหลอกตัวเองให้เข้าใจผิดทั้งสิ้น
ข้อที่เข้าใจว่า พุทธธรรมไม่จำเป็นต้องรู้ ก็อาจหาความสุขได้นั้น ก็เป็นความจริง แต่ท่านคงไม่เคยรู้สึกว่า ความสุขที่เราแสวงหาและมีๆ กันอยู่นั้น เป็นของหลอกลวงเกือบทั้งสิ้น และมักมีพิษในภายหลังเสมอ ถ้าได้สัมผัสกับพุทธธรรมเสียบ้าง พิษที่เกิดจากความสนุกนั้นจะลดน้อยลง
และสามารถแสวงหาความสุขที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไป
ข้อที่ว่า ถ้าคนสนใจกับเรื่องนี้ จะต้องออกไปเป็นฤาษีชีไพร
เข้าไปแตะต้องกับความสุขในทางโลกไม่ได้เลยนั้น ข้อนี้ก็เป็นความเข้าใจผิดถนัด
พุทธศาสนาไม่มีการบังคับให้เชื่อ หรือบังคับให้ทำตาม ท่านจะเป็นฤาษีหรือไม่ สุดแล้วแต่ความพอใจ
และก็ไม่ใช่เป็นกฎตายตัวว่าต้องเป็นฤาษีหรือนักบวชเท่านั้น จึงจะเข้าใจพุทธธรรมได้
เรื่องนี้ท่านผู้แสดงได้ชี้แจงไว้ดีที่สุดแล้ว ในปาฐกถาของท่าน
ข้อที่ว่า คนธรรมดาไม่ใช่นักบวชหรือนักปราชญ์เข้าใจเรื่องนี้ไม่ได้นั้น
ก็ยังขัดต่อความจริง ในครั้งพุทธกาล ปรากฏว่าคนอายุ ๗ ขวบทั้งหญิงทั้งชาย
หรือฆราวาสผู้ครองเรือน เข้าใจเรื่องนี้ได้ ก็มีอยู่
ข้อที่ว่า เราเห็นว่ายากนั้น อาจเป็นเพราะเราไม่สนใจอย่างแท้จริง
หรือเพราะอ่านหนังสือที่ทำอย่างไรเสีย ก็ไม่อาจเข้าใจได้ ก็ได้..."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น