วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การค้นพบตัวตน...พระอาจารย์นพพร อทิจฺจวํโส


การค้นพบตัวตน
(พระอาจารย์นพพร อทิจฺจวํโส อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่)


สิ่งที่คนทั้งหลายสมมุติว่า เป็นตัวเป็นตนเป็นของของตน ก็คือ รูป และนาม ได้แก่ร่างกาย และจิตใจ(ความรู้สึกนึกคิด) ได้แก่ ขันธ์ ๕ นั่นเอง เมื่อคิดพิจารณาค้นหาตัวตนแล้ว จะเห็นว่าตัวตนจริงๆ ของตนนั้นไม่มี

เพราะ รูปกายนี้ เป็นเพียงธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อเข้าสู่ความเสื่อมสลายดับหายไปหมด ตามอำนาจของกฎไตรลักษณ์ ซึ่งเป็นกฎธรรมดาของโลก คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีเหตุปัจจัยทำให้เกิดขึ้น มีเหตุมีปัจจัยทำให้ดับสลายหายไปหมด คงความเป็นตัวตนที่แท้จริง ถาวรไม่ได้ ในที่สุดก็มีแต่ความว่างเปล่า ไม่ว่ารูปกายเรา หรือรูปกายเขา ไม่ว่ารูปกายในอดีต รูปกายในปัจจุบัน และรูปกายในอนาคต เมื่อรู้แจ้งเห็นจริงของรูปกายแล้ว ก็ละอุปาทาน ยึดติดถือมั่นในรูปกายได้ ทุกข์ก็ดับไป

เวทนา คือ ความรู้สึกเป็นสุข ทุกข์ หรือเฉยๆ เมื่อ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส กายสัมผัสร้อนเย็นอ่อนแข็ง ใจรับอารมณ์ต่างๆ ล้วนแต่เกิดแล้ว ก็ดับสลายหายไปหมด ตามเหตุปัจจัย ในที่สุดก็มีแต่ความว่างเปล่า


สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้ใน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ต่างๆ เกิดแล้วก็ดับสลายหายไปหมด ตามเหตุปัจจัย เช่นกัน ในที่สุดก็มีแต่ความว่างเปล่า


สังขาร คือ การคิดปรุงแต่งตามสัญญา(คือ ความจำได้หมายรู้) เมื่อตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส กายสัมผัสร้อนเย็นอ่อนแข็ง ใจรับอารมณ์ต่าง ๆ ก็ไม่เที่ยง เกิดแล้วก็ดับไป เกิดแล้วก็ดับไป ตามเหตุปัจจัย และในที่สุดก็มีแต่ความว่างเปล่า

วิญญาณ คือ ธาตุรู้ จิตเป็นผู้รับรู้ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และอารมณ์ต่างๆ สิ่งที่รับรู้ ก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีตัว ไม่มีตน มีแต่ความว่างเปล่า

สรุปการค้นหาตัวตนแล้ว ก็จะพบแต่ความว่างเปล่า ตัวตนของตนจริงๆ ไม่มี สิ่งที่เป็นอยู่  มีอยู่  เป็นเพียงสมมุติ  ล้วนเกิดดับๆ  เกิดขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า แล้วก็ดับสลาย ไปสู่ความว่างเปล่าหมด


เมื่อรู้จักสมมุติ ละสมมุติได้แล้ว ก็จะได้วิมุตติ เป็น ปัญญาวิมุตติ คือ หลุดพ้นด้วยปัญญา คือ ความรู้แจ้งในเหตุผล ตามความเป็นจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น